แจ้งเกิดแล้ว! 2 นักศึกษา มทร.ธัญบุรี คณะศิลปศาสตร์ คว้า “สุดยอดพิธีกร” เตรียมเขย่าวงการด้วยพลังคนรุ่นใหม่

โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
12 มิถุนายน, 2025
พิธีมอบรางวัลการประกวดสุดยอดพิธีกร จากการประกวดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อค้นหาผู้อัญเชิญตรามหาวิทยาลัยและสุดยอดพิธีกร ประจำปีการศึกษา 2568
13 มิถุนายน, 2025
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
12 มิถุนายน, 2025
พิธีมอบรางวัลการประกวดสุดยอดพิธีกร จากการประกวดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อค้นหาผู้อัญเชิญตรามหาวิทยาลัยและสุดยอดพิธีกร ประจำปีการศึกษา 2568
13 มิถุนายน, 2025

แจ้งเกิดแล้ว! สองนักศึกษา มทร.ธัญบุรี คณะศิลปศาสตร์
ผงาดคว้า “สุดยอดพิธีกร” เตรียมเขย่าวงการด้วยพลังคนรุ่นใหม่

 

วงการพิธีกรไทย กำลังได้ต้อนรับคลื่นลูกใหม่ที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และแรงขับเคลื่อน เมื่อสองนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ได้รับการยอมรับในฐานะ “สุดยอดพิธีกร” ใน โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อค้นหาผู้อันเชิญตรามหาวิทยาลัยและสุดยอดพิธีกร ประจำปีการศึกษา 2568 ซึ่งจัดขึ้นโดย องค์การนักศึกษา มทร.ธัญบุรี ความสำเร็จของทั้งคู่เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจ สะท้อนถึงการทุ่มเท ความมุ่งมั่น และหัวใจที่เปี่ยมด้วยแพสชัน

น.ส.ณัฐธิดา คำชวด หรือ “หมวยเล็ก” นักศึกษาสาววัย 19 ปี จากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และ นายจิระยุทธ ถมมา หรือ “ไอซ์ซึ” นักศึกษาหนุ่มวัย 19 ปี คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพนานาชาติ ทั้งคู่ในชั้นปีที่ 2 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การก้าวเดินตามความฝันสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

 

หมวยเล็ก

 

สำหรับหมวยเล็ก แรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่ผลักดันเธอเข้าสู่เส้นทางพิธีกรคือ คุณโซดา-ชนะดา วิเลปะนะ สุดยอดพิธีกรฝ่ายหญิงปี 2567 ที่ตอนนี้ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์แล้ว “พี่โซดาเป็นบุคคลที่เราเห็นความพยายามของเขามาโดยตลอด ไม่ว่าจะประกวดมิสควีน หรือการทำงานทุกอย่างที่เขาเต็มที่เสมอ นั่นเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของหมวยเล็ก” เธอยังเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นพิธีกรตั้งแต่สมัยมัธยมปลายที่โรงเรียนธัญบุรี ซึ่งครูอาจารย์เล็งเห็นแววและมอบโอกาสให้เธอได้ทำหน้าที่สำคัญนี้

 

ไอซ์ซึ

 

ด้านไอซ์ซึ สุดยอดพิธีการฝ่ายชาย เรื่องราวของเขาแตกต่างออกไปเล็กน้อย เขายอมรับว่าไม่ได้มีแรงบันดาลใจโดยตรงที่จะเป็นพิธีกรตั้งแต่แรก แต่มาจาก “ความชื่นชอบในการทำสิ่งใหม่ ๆ และการมองเห็นโอกาส” การเป็นประธานสีสมัยมัธยมปลายที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับการพูดในที่สาธารณะและเริ่มค้นพบศักยภาพของตัวเอง

ทั้งสองคนต่างเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง หมวยเล็กเน้นย้ำถึงการพัฒนา “ทักษะบุคลิกภาพ” ทั้งการเดิน การยืน และการใช้มือ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้พิธีกรดูเป็นมืออาชีพ ขณะที่ไอซ์ซึเผยว่าการอบรมครั้งนี้ช่วยให้เขาเรียนรู้การ “แสดงออก การแนะนำตัวเอง และการจัดการกับความเครียดและความกดดัน” ซึ่งเป็นทักษะที่ไม่ใช่แค่สำหรับเวที แต่ยังรวมถึงชีวิตประจำวันด้วย

เมื่อถูกถามถึงคุณสมบัติของ “สุดยอดพิธีกร” ที่ดี หมวยเล็กให้คำนิยามว่าคือการมี “ลายเซ็นและความเป็นธรรมชาติ” ซึ่งทำให้พิธีกรแต่ละคนโดดเด่นและน่าจดจำ ส่วนไอซ์ซึเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ใจรัก “ถ้าเรามีใจที่อยากจะเป็นสุดยอดพิธีกร อยากจะเก่งด้านการพูด ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเกิดเรามีพรสวรรค์แต่ถ้าเกิดเราไม่ชอบการพูดเลย เราก็จะไม่อยากพัฒนา” เขากล่าว ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อที่ว่าแพสชันสามารถเอาชนะพรสวรรค์ได้

ประสบการณ์อันมีค่าจากการอบรมไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการพัฒนาทักษะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิตรภาพและแรงสนับสนุน หมวยเล็กประทับใจช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้กับ ครูท็อฟฟี่ (ดร.นิชนันท์ คงศรี) ซึ่งเปิดโลกความรู้ใหม่ ๆ ให้เธอ ขณะที่ไอซ์ซึซาบซึ้งกับมิตรภาพที่ได้รับจากทั้งเพื่อนร่วมเข้าแข่งขันและคณาจารย์ “ไม่มีใครมีท่าทีเป็นผู้แข่งขันเป็นศัตรูกันเลย ทุกคนแบบไปด้วยกันในเส้นทางเดียวกัน ช่วยเหลือกันและกัน” ไอซ์ซึกล่าวถึงบรรยากาศของการทำงานร่วมกัน

หลังจากคว้ารางวัลสุดยอดพิธีกร ทั้งสองคนมีเป้าหมายที่ชัดเจน หมวยเล็กตั้งใจที่จะ “เป็นหน้าเป็นตาให้กับมหาวิทยาลัย” และปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะงานปฐมนิเทศที่กำลังจะมาถึง ส่วนไอซ์ซึมีเป้าหมายที่จะ พัฒนาตนเองในสายงานพิธีกรอย่างต่อเนื่อง และหวังที่จะเป็น “แบบอย่าง (Role Model)” ให้กับรุ่นน้องได้ดำเนินรอยตามในอนาคต

ทั้งสองคนยังฝากข้อคิดอันทรงพลังให้กับผู้ที่กำลังไล่ตามความฝัน หมวยเล็กเปรียบเทียบชีวิตเป็น “ขั้นบันได” ที่ถึงแม้จะยังอยู่แค่ตรงกลาง ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำเร็จ เพราะได้ก้าวออกมาจากจุดเริ่มต้นแล้ว และสักวันหนึ่งจะไปถึงความสำเร็จอย่างแน่นอน ด้านไอซ์ซึ เน้นย้ำถึงการคว้าโอกาส “ถ้ามีอะไรก็ทำไปหมดเลย ได้ไม่ได้ไม่รู้ ตอนนี้ผมก็คิดว่าผมไม่ได้มีความเก่งกาจในด้านการพูดหรือการเป็นพิธีกรมาก แต่ก็เอาความใจกล้าพูด กล้าที่จะทำการใด ๆ มาช่วยผลักดันให้เราไปข้างหน้า” เขาสรุปด้วยรอยยิ้ม

เรื่องราวของ 2 สุดยอดพิธีกร เป็นบทพิสูจน์ถึงพลังของความมุ่งมั่น แรงบันดาลใจและการคว้าโอกาส ที่สามารถเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นเส้นทางอาชีพที่น่าภาคภูมิใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายชีวิตที่กำลังตามหาความฝันในแบบของตัวเอง ร่วมติดตามผลงานและบทบาทการเป็นพิธีกรได้จากกิจกรรมสำคัญของมหาวิทยาลัย และในวงการต่อไปได้เลย!

 

 

 

เรื่อง/ฝ่ายข่าว กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
ภาพ/ฝ่ายผลิตและเผยแพร่ กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี

 

 

อลงกรณ์ รัตตะเวทิน
อลงกรณ์ รัตตะเวทิน
นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ (ฝ่ายข่าว) กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี

Comments are closed.