มทร.ธัญบุรี ปั้นนวัตกรรม ‘โพสไบโอติกเบอร์รี่’ สร้างมูลค่าวิสาหกิจชุมชน คว้าเหรียญทองเวทีโลก

มทร.ธัญบุรี ปั้นนวัตกรรม ‘โพสไบโอติกเบอร์รี่’
สร้างมูลค่าวิสาหกิจชุมชน คว้าเหรียญทองเวทีโลก

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เดินหน้าผลักดันงานวิจัยที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคม ล่าสุด ทีมวิจัยจากคณะเทคโนโลยีการเกษตร ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพโพสไบโอติก (Postbiotic) จากมัลเบอร์รี่ ที่ผสานเทคโนโลยีการหมักจุลินทรีย์เข้ากับวัตถุดิบทางการเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากลของผู้ประกอบการรายย่อย ผลงานนี้ได้รับการการันตีด้วยรางวัลเหรียญทองจากเวทีนานาชาติที่ไต้หวัน

ดร.พีรพงศ์ งามนิคม จากคณะเทคโนโลยีการเกษตร (หัวหน้าโครงการ) และ ดร.ศิริลักษณ์ สุรินทร์ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ผู้ร่วมวิจัย) อธิบายว่า งานวิจัยนี้มุ่งสร้างความแตกต่างให้ตลาดเครื่องดื่มผลไม้ ด้วยการประยุกต์แนวคิด ‘โพสไบโอติก’ ซึ่งหมายถึงสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันอิสระหรือกรดอะมิโน ที่จุลินทรีย์ผลิตขึ้นจากกระบวนการหมัก ร่างกายจึงสามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้ทันที โดยช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ระบบขับถ่าย และปรับสมดุลร่างกายโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยตามปกติ

ทีมวิจัยเลือกใช้จุลินทรีย์แบบผสมของกลุ่มที่ผลิตกรดแลคติก โดยมีจุลินทรีย์ดตัวหลักอย่าง แลคโตบาซิลลัส แพลนทาลั่ม (Lactobacillus plantalum) เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของสารต้านอนุมูลอิสระขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลงและเพิ่มระดับสารสำคัญในตระกูลเบอร์รี่ให้สูงขึ้น อีกทั้งยังนำแนวคิดการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามาประยุกต์ใช้ โดยนำกากมัลเบอร์รี่ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากการผลิตน้ำมัลเบอร์รี่ของวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์มัลเบอร์รี่ กลุ่มสวนชนาภัทร จ.ปราจีนบุรี มาเป็นวัตถุดิบหลักในการหมัก เป็นการลดของเสียและเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่

หัวใจสำคัญของเทคโนโลยี อยู่ที่การออกแบบกระบวนการผลิตให้เหมาะกับผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอี สามารถทำได้จริง มีต้นทุนไม่สูงแต่ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสูงและปลอดภัย โดยหลังผ่านการหมัก ที่อุณหภูมิห้อง จะนำน้ำมัลเบอร์รี่ที่หมักได้ไปผ่านกระบวนการ Hot Fill Pasteurization (การฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส) และที่สภาวะความเป็นกรดสูง (pH ต่ำกว่า 4.6) ซึ่งช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมด แต่ยังคงรักษาคุณค่าทางโภชนาการและสารโพสไบโอติกไว้ครบถ้วน ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปี ที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งนานกว่าเครื่องดื่มหมักทั่วไปที่เก็บได้เพียง 7–14 วัน ในอุณหภูมิการแช่เย็น

เครื่องดื่มโพสไบโอติกมัลเบอร์รี่ มีรสหวานอมเปรี้ยว สดชื่น ไม่มีน้ำตาล และใช้สารทดแทนความหวานแทนน้ำตาล เน้นกลุ่มผู้บริโภคผู้หญิงวัยรุ่นถึงวัยทำงานที่ชอบทานน้ำผลไม้และอยากได้สารที่เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและทำให้ผิวพรรณดี นอกจากนี้ ผู้บริโภคทั่วไปสามารถรับประทานได้ รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย อีกทั้งให้คุณประโยชน์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อการชะลอวัย สารโพสไบโอติกช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลร่างกาย และไฟเบอร์ช่วยส่งเสริมระบบขับถ่าย

ผลงานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนภายใต้แผนงานวิจัย การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Central II Food Valey by RMUTT (Functional food and Personalized food) ที่ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยคว้ารางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) จากงาน Kaohsiung International Invention and Design EXPO 2024 ณ เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน พร้อมรับรางวัลพิเศษ (Special Prize Award) จากประเทศเกาหลี ซึ่งสะท้อนมาตรฐานงานวิจัยและศักยภาพด้านนวัตกรรมของ มทร.ธัญบุรี ในเวทีโลก โดยผลงานนี้ถือเป็นตัวอย่างของ Agro Food Innovation (นวัตกรรมเกษตรและอาหาร) ที่นำความรู้ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าและต่อยอดสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์และชุมชนอย่างแท้จริง

เครื่องดื่มโพสไบโอติกจากมัลเบอร์รี่ เตรียมวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Mayberry ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์มัลเบอร์รี่ กลุ่มสวนชนาภัทร จ.ปราจีนบุรี หรือสอบถามเพิ่มเติมกับนักวิจัย ดร.พีรพงศ์ งามนิคม (คณะเทคโนโลยีการเกษตร) และดร.ศิริลักษณ์ สุรินทร์ (คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) รวมทั้งผ่านเพจ สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.ธัญบุรี https://www.facebook.com/irdofrmutt ซึ่งพร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน.

* ผลงาน “โพสไบโอติกเบอร์รี่” ของ มทร.ธัญบุรี มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายข้อ โดยหลักๆ คือ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-being) ผ่านการพัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพโพสไบโอติกที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ระบบขับถ่าย และปรับสมดุลร่างกาย (SDG 3.4 ลดการตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อและส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี) SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน (Industry, Innovation, and Infrastructure) โดยเน้นการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมเกษตรและอาหาร (Agro Food Innovation) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากลของผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs (SDG 9.4 ยกระดับอุตสาหกรรม และ SDG 9.5 เพิ่มการวิจัยทางวิทยาศาสตร์) และ SDG 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) ด้วยการใช้ กากมัลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นวัตถุดิบหลักในการหมัก เป็นการ ลดของเสีย และ เพิ่มมูลค่า ให้ผลผลิตทางการเกษตร (SDG 12.5 ลดของเสียจากการผลิต)

ผู้สนใจเข้าชมคลิปการสัมภาษณ์นักวิจัย ได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=GCnEnGmCg_A  และ  https://www.youtube.com/watch?v=yolBxKRuoLk 

เรื่อง/เผยแพร่ : ฝ่ายข่าว กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
ภาพ : ฝ่ายผลิตและเผยแพร่ กองประชาสัมพันธ์, สถานีวิทยุกระจายเสียง มทร.ธัญบุรี
คลิป : Tapakon Putket และ สถานีวิทยุกระจายเสียง – สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.ธัญบุรี